ต้องบอกเลยว่าเรื่องของความรักนั้นไม่จำกัดเพศ หากหัวใจคลิกกัน หลายคู่พรหมลิขิตให้มองข้ามข้อจำกัดในเรื่องเพศ อีกทั้งสังคมในยุคนี้ก็ยอมรับและเปิดกว้างมากขึ้นแล้ว หากผู้หญิงกับผู้หญิง หรือผู้ชายกับผู้ชายจะรักกัน เหมือนกับคู่รักผู้หญิง-ผู้หญิงคู่นี้"คุณเม จีระวรรณ วีระกุล และคุณตาล สุณิสา วัชพลศุภากร" ที่คบกันมานานและใช้เวลากว่า 10 ปีที่จะทำให้ครอบครัวยอมรับและเข้าใจ จนถึงช่วงเวลาความรักสุขงอม พร้อมทั้งสองฝ่าย จึงตัดสินใจเข้าสู่งานวิวาห์แสนหวาน โดยที่ทั้งคู่เป็นคนเตรียมงานหาข้อมูลการจัดงานแต่งงานเอง ซึ่งการจัดงานแต่งงานจะยากง่ายแค่ไหนนั้น Happy Wedding.Life ขอพาคุณไปร่วมแชร์ประสบการณ์การจัดงานแต่งงานของทั้งคู่กันค่ะ
เส้นทางความรักสู่งานแต่งงานแสนหวาน
ตาล : เราคบกันมานานกว่า 11 ปีแล้ว ส่วนตัวครอบครัวยอมรับในตัวเราอยู่แล้ว แต่ของเมค่อนข้างใช้เวลาอยู่เหมือนกัน กว่าพ่อแม่จะเข้าใจ โดยเราใช้เวลา 10 ปี นานเหมือนกันกว่าผู้ใหญ่จะบอกว่ามาเริ่มแต่งงาน มาเริ่มคุยให้อยู่ด้วยกันได้แล้ว ที่จริงเรามีความคิดมาก่อนหน้านี้แล้วว่าแต่งงานเมื่อปีที่แล้ว ก็คิดมาตั้งแต่ปี 2558 แล้วว่าจะจัดงานแต่งงานแต่ว่าเวลาว่างยังไม่มี รวมทั้งศึกษาจากคู่หญิงรักหญิงที่แต่งงานกันมาก่อนเก็บข้อมูลมาเรื่อยๆ
คุณตาล(ซ้าย) - คุณเม(ขวา)
เม : คู่หญิงรักหญิงที่แต่งงานกันจริงๆ แล้วไม่เยอะมากเท่าไหร่ แต่ก็เริ่มเปิดมากขึ้น ก็อยากเป็นสื่อกลางให้ โดยตอนนั้นความคิดของเราเด็ก มันก็เหมือนล่องลอย กลัวเขาไม่ยอมรับ ไม่เห็นด้วย มันไม่ใช่ชายกับหญิง อันนี้มันหญิงหญิง พอครอบครัวเปิดใจว่าคู่เราไม่คิดที่จะแต่งกับเขาบ้างเหรอ ก็เลยบอกเขาว่ามีนะ คิดเหมือนกัน ก็เริ่มดำเนินการว่าเราจะแต่งกันจริง ๆ แล้วนะ แต่ก็มีบางคนเขาคิดว่าทำไม่ได้หรอก อาทิ ญาติผู้ใหญ่บางคนไม่ค่อยเห็นด้วย แต่ก็พยายามปล่อยผ่าน เอาที่ความสุขของเรา เราจะไปบังคับจิตใจใครทุกคนมันไม่ได้ เราก็เอาที่ความสุขของเราวันนี้ คนอื่นเขาจะเป็นยังไง เขาไม่ได้มาอยู่บนความสุขของเรา ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับเรา ก็เลยเริ่มมีแพลนคิดจะจัดงานแต่งงาน เราเก็บข้อมูลมาเรื่อย ๆ แต่มาจริงจังลงรายละเอียดเลยใช้เวลา 1 ปีในการเตรียมตัว
พรีเวดดิ้งสุดโรแมนติก
วางแผนเตรียมจัดงานแต่งงาน
เม : ซึ่งจริงๆ แล้วเริ่มแรกก็ไม่ได้คิดจะแต่งงาน แต่เหมือนกับพ่อกับแม่ฝ่ายของเราถามว่าคบกันมานานแล้วมีแพลนจะจัดงานแต่งงานมั้ย เห็นคนอื่นเขาแต่งงานกันไปหมดแล้ว แล้วคู่ของเราล่ะ ก็เลยเริ่มที่จะคิดเตรียมงานแต่งงาน พอตกลงกันได้ผู้ใหญ่สองฝ่ายคุยกันเขาโอเคทั้งคู่ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็ตัดสินใจตกลงแต่งงานกัน โดยการเตรียมงานแต่งงานก็เตรียมเองทุกอย่าง ศึกษาข้อมูลการจัดงานแต่งงานจากอินเทอร์เน็ต และตามเว็บที่ให้ข้อมูลงานแต่งงานต่างๆ
การวางแผนจัดงานแต่งงานเริ่มจากหาฤกษ์แต่งงานก่อน ค้นหาสถานที่ หากถ้าสถานที่มาหาทีหลังมันจะมีปัญหาได้ เพราะเราก็มีปัญหาสถานที่เหมือนกัน ตอนแรกคุยกับแม่ไว้ว่าแขกเท่านี้ พอผ่านไปอีกเดือนแม่บอกไม่ได้นะ แขกเยอะขึ้น ทีนี้เราจองอันเก่าไว้แล้วก็เลยต้องทิ้ง พอมาหาอันใหม่มันก็ยากขึ้นไปอีก ก็เลยคิดว่าต้องหาสถานที่ก่อน แล้วก็มาเรื่องติดต่อออแกไนซ์
เปิดตัวบ่าวสาว
จัดหาสถานที่จัดงานแต่งงาน
เม : ดูที่แขกของผู้ใหญ่ว่าแขกมาประมาณเท่าไหร่ก็เลือกสถานที่ให้รับกับแขกได้ และเรื่องความสะดวก สถานที่จัดงานแต่งงานจะอยู่แถวบ้านเพราะผู้ใหญ่ก็จะเป็นคนในละแวกนั้นหมดเลย ใกล้บ้านเราด้วย ใกล้ทางแขกผู้ใหญ่ด้วย เอาที่ว่าเขาสะดวก รถไม่ติด โดยตอนเช้าเราจะจัดที่เรือนไทย เป็นพิธีแต่งงานแบบไทยตามลำดับพิธีการ งานตอนเย็นจัดหอประชุมโรงเรียน
ตักบาตร
ขบวนขันหมาก
สวมแหวน
รดน้ำสังข์
พิธีส่งตัว
ตาล : ตอนเย็นจัดที่โรงเรียนอาชีวะ หอประชุมเขากว้าง รองรับแขกได้เยอะอยู่ เพราะว่าแขกเราจัดประมาณ 95 โต๊ะ ก็เลยต้องเลือกหอประชุมให้ใหญ่ เลือกโรงเรียนอาชีวะ อยู่ใกล้บ้าน แต่งานตอนเย็นเราก็คือจ้างออแกไนซ์ตกแต่งสถานที่ อาหารก็จ้างแยกอีก ก็คือทุกอย่างแยกหมดเลย ชุดแต่งงาน การจัดเลี้ยงอาหาร และการตกแต่งสถานที่จัดงานแต่งงาน
จัดงานฉลองมงคลสมรส
เลือกใช้ออแกไนซ์ตกแต่งสถานที่
เม : ด้วยงานใหญ่ และสถานที่ที่เราเลือกจัดงานแต่งงานค่อนข้างกว้าง เลยเลือกที่จะจ้างออแกไนซ์ตกแต่งสถานที่ให้ โดยการตัดสินใจจ้างนั้นเราจะคุยกับเขาก่อนดูว่าเขาเป็นยังไง นัดเจอ และก็วางแพลนว่าเรามีคอนเซ็ปต์แบบนี้คุณทำให้เราได้มั้ย ในราคาที่เท่าไหร่ ตามงบที่เรากำหนดไว้รึเปล่าประมาณนี้ และก็ดูผลงานเขาว่ามันโอเคมั้ย ตรงกับที่เราต้องการมั้ย เพราะบางออแกไนซ์เขาก็จะจัดแบบเรียบง่าย ดอกไม้ไม่เยอะ บางออแกไนซ์ใช้ดอกไม้อลังการฟู่ฟ่าไปเลย แต่ละที่จะไม่เหมือนกัน โดยของเราจะไม่มีคอนเซ็ปต์ที่ตามตัว อยากได้อะไรก็บอกไป ยิ่งเราเป็นคนเยอะอยู่แล้ว การตกแต่งเลยเยอะตาม มีทั้งทางเดินเข้างาน มีซุ้มแต่งงาน มีตัดเค้กแต่งงาน ตกแต่งเวที แบ็คดรอป ฯลฯ ซึ่งการจัดงานแต่งงานจัดเหมือนผู้ชายผู้หญิงทั่วไป ซึ่งเราได้พี่หนิง Memories Wedding ออแกไนซ์มืออาชีพมาดูแลจัดการให้ทั้งหมด
การ์ดงานแต่งงาน
เม : เราเลือกออกแบบโลโก้เอง แล้วก็หาร้านเอง เป็นประมาณนี้ วางฟอนต์ตัวอักษรเอง กล่องก็จะเป็นคอนเซ็ปต์ของมัน ร้านที่เมไปทำการ์ดก็ดูใน Happy Wedding.Life ส่วนมากจะศึกษาจากในนั้น อย่างมีคนมารีวิว มาแนะนำก็เข้าไปอ่าน เพราะว่าเมเรื่องเยอะกว่าจะได้อะไรมาแต่ละอย่าง ก็ศึกษาก่อน เสียเงินไปบางทีมันก็ไม่ใช่บาท สองบาท เราศึกษาอ่านจาก Happy Wedding.Life ดีมากเลยค่ะ
การ์ดแต่งงาน
ของชำร่วยที่ตั้งโทรศัพท์
วางงบประมาณจัดงานไว้ไหม
เม : จากที่เราศึกษามานะว่าการจัดงานแต่งงานมันต้องจำกัดงบประมาณ แต่เรามองว่ามันครั้งเดียวในชีวิต ทุกอย่างมันอยากให้ออกมาให้ดีที่สุด แต่มันก็ไม่ได้ถึงกับเวอร์วัง เมมองว่าเอาที่เราไหว อยากจะจัดให้มันออกมาดีที่สุด ถูกใจเราที่สุด
ปรึกษาผู้ใหญ่เรื่องการจัดงานไหม
เม : ปรึกษาน้อยมาก เมมองว่าการแต่งงานที่เขาบอกว่าหลาย ๆ คู่จะต้องปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน ต้องดูพ่อแม่เอาอะไร เมมองว่าใช่อันนี้เรื่องผู้ใหญ่มันสำคัญ แต่ชีวิตคู่คุยกันอย่างนี้มันดีกว่า ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ความเห็นมันไม่ลงกันอยู่แล้ว ถ้าเราคุยกันตัดสินใจกันเองมันจะง่ายกว่า โดยผู้ใหญ่ของเราทั้งสองฝ่ายตามใจทุกอย่าง ให้เราตัดสินใจเอง มีแค่งานพิธีแต่งงานเช้า ที่เราจัดให้แบบเต็มรูปแบบประเพณีไทย
จัดงานแต่งงานเองกับจ้างออแกไนซ์ คิดว่าแตกต่างกันไหม
ตาล : จัดงานแต่งงานเองมันเหนื่อย ขนาดเรามีออแกไนซ์ เรายังรู้สึกว่าตัวเราเหนื่อยเลย ถ้าทำเองทั้งหมดคิดว่าน่าจะเหนื่อยกว่านี้เยอะ พี่เขาเข้ามาช่วยได้เยอะ ในเรื่องของความคิดอะไรหลาย ๆ อย่าง เพราะพี่เขามีประสบการณ์มากกว่า เขาก็สามารถแนะนำเราได้ เราไม่มีประสบการณ์เลย เราเพิ่งแต่งงานกันครั้งแรก มันไม่มีทางรู้อะไรอยู่แล้ว พี่เค้าเข้ามาแนะนำช่วยประหยัดเวลาเรา ช่วยในเรื่องของความคิดด้วย พี่เค้าแนะนำดี
เม : ถ้าวันงานจริง ๆ เราไม่มีออแกไนซ์ เมว่ามันยุ่ง เพราะว่าทุกอย่างมันอยู่ในหัวเราหมดเลย มันจะคิดว่าไอ้นั่นมามั้ย ไอ้นี่มามั้ย โต๊ะจีนมาลงรึยัง โต๊ะจัดเป็นยังไง มันคืออยู่ในหัวเรา ถ้าเราไม่มีคนที่จะออกไปช่วยดู อย่างออแกไนซ์ เขาจะมาคุยว่าน้องเมย์มีอะไรที่ต้องติดต่อไหม ซึ่งเขาก็เอาไปติดต่อให้เราหมดเลยในวันนั้น โดยที่เราไม่ต้องทำอะไรแล้ว แต่ถ้าเจ้าสาวที่ทุกอย่างฉันจะต้องทำเองไม่ปล่อยวางไม่ได้ฉันต้องดู เมมองว่าน่าจะแย่ และจะเหนื่อยมาก
นี่แค่บอกออแกไนซ์ว่าเราต้องการงานแบบนี้นะ คอนเซ็ปต์แบบนี้ วางสเต็ปไว้ว่าต้องเป็นแบบนี้นะ เขาก็โอเค เข้าใจ มีอะไรก็คือจะต้องผ่านออแกไนซ์มาหาเรา ไม่ใช่ว่าอยู่ดี ๆ มาหาเราเลย ขณะที่เราแต่งหน้าอยู่เราไม่สามารถเดินออกไปแก้ปัญหาได้ ก็มีออแกไนซ์นี่แหละที่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้เราได้
คิดจะไปจดทะเบียนสมรสไหม
เม : ก็คิด แต่ว่ามันเอามาใช้ในกฎหมายในไทยไม่ได้ แต่ถ้าที่ไทยมีจดทะเบียนสมรสระหว่างเพศเดียวกันขึ้นมา ก็จะเปิดโอกาสให้หลาย ๆ คู่ ไม่ใช่คู่เราคู่เดียว เมว่าคู่อื่นเขาก็มีคิดจะแต่งบ้าง แต่ด้วยความที่หลายมุมมอง อย่างเวลาไปร้านแต่งงาน ไปไหนก็แล้วแต่ เช่าชุด ถ่ายพรีเวดดิ้ง ก็ต้องกลัวสายตาคนมองเหมือนกัน แต่ถ้าทุกคนเข้าใจ ทุกคนที่เจอมาไม่มีใครเหยียดเรื่องเพศ เหยียดว่าจะทำได้เหรอ เป็นแบบนี้จะแต่งงานกันจริง ๆ เหรอ ไม่มี ทุกคนแฮปปี้และยินดี สังคมมันเปิดขึ้นเยอะ อยากให้ทุกคนกล้าที่จะเปิด เราเป็นแบบนี้เราก็มีความรักได้นะ เราก็มีความสุขในแบบของเราได้เหมือนกัน อยากให้คู่ที่เป็นแบบเราสองคน ถ้าคุณคิดอยากจะแต่ง ก็แต่งเลยถ้าพร้อม ไม่ต้องมาลังเล กลัวว่าคนอื่นเขาจะมองไม่ดีนะ ถ้าคุณสองคน พ่อแม่ ครอบครัว เข้าใจก็พอแล้ว
ฝากคำแนะนำ
เม : การแต่งงานระหว่างช่วงเวลาแต่งงานมันจะบอบบางมาก ในความรู้สึกของผู้หญิง จุกจิกไปหมด มันทะเลาะกันได้ง่ายมาก ยังไงก็ค่อย ๆ คุยกัน มีอะไรก็หันหน้าเข้ามาคุยกันดีกว่า เมศึกษาหาข้อมูลจากเว็บนี่แหละ ทำยังไงให้การแต่งงานราบรื่น ไม่ต้องมานั่งทะเลาะกัน มันบอบบางอะ อยากให้หันหน้ามาคุยกัน อยากได้อะไร ตรงไหน ช่วยกันแก้ปัญหาไปจะดีกว่า
ค้าหาเวดดิ้งแพลนเนอร์เพิ่มได้ที่นี่
รีวิวงานแต่งงานของบ่าวสาวรุ่นพี่ :
แชร์ประสบการณ์งานแต่งในสวนแบบมีสไตล์ DIYตามความชอบ สะท้อนความเป็นตัวเรา
รีวิวจัดงานแต่งงานที่บ้านแสนอบอุ่นตามประเพณีจีน ธีมจีนแบบเรียบง่าย สุดประหยัดพร้อมแจงค่าใช้จ่าย
แชร์ประสบการณ์จัดงานแต่งสุดอบอุ่นจาก “เจ้าสาวของฟาน” อดีตดาราวัยรุ่นแก๊งหินกลิ้ง
เนื่องจากมีการอัพเกรดระบบใหม่ การ Login เข้าสู่ระบบจำเป็นต้องทำการเปลี่ยนรหัสผ่านก่อน หากคุณไม่สามารถ login ได้กรุณาเปลี่ยนรหัสผ่าน ที่นี่